หาดเฉวง,สมุย
กำลังจะต้องไปทำภารกิจบางอย่างที่สมุย ฟังดูดีทีเดียวใช่มั๊ยคะ ไปทำงานและไปทำงานที่สมุย ที่แรกก็คิดว่าดูดีแหละค่ะ แต่พอดูข่าวเมื่อวานว่าน้ำท่วม ชุมพร สุราษฎร์ รวมถึงหาดเฉวงด้วย!!! เลยคิดในใจว่าซวยแล้วไม๊ล่ะคะ งานนี้ล่มไม่ได้เพราะเป็นงานกลางแจ้งและยังไม่ได้คิดถึงว่า ถ้าฝนตก พายุกระหน่ำ plan B ของเราจะออกมารูปไหน จริงๆแล้วไม่ว่าจะงานอะไรก็ตามเราควรมีแผนสอง รองรับเสมอแต่สารภาพอย่างไม่อายว่าไม่ได้นึกถึงแผนสองไว้เลย คือลืมไปเลยด้วยซ้ำว่านี่คือช่วง มรสุม(หรือเปล่า) และสมุยก็เป็นเกาะแม้จะใหญ่โตแค่ไหน แต่โบราณเค้าว่า คืบก็ทะเล ศอกก็ทะเล จริงของคำโบราณค่ะเพราะได้รู้ซึ้งแล้วว่าไอ้ คืบก็ทะเล ศอกก็ทะเล ถ้าบทมันจะน่ากลัว มันน่ากลัวมากน้อยแค่ไหน
ที่พักบนเกาะเสม็ด
เมื่อเกือบสองปีที่แล้ว เราและเหล่าสหายร่วม trip ที่เรียกได้ว่าเป็น trip ที่ยากจะลืมเลือน จุดหมายปลายทางของ trip ที่ว่าคือเกาะเสม็ด (เสร็จไปหลายราย) ฟังดูเป็นการเที่ยวทะเลแบบพื้นๆนะคะ เกาะเสม็ด ใครๆก็คงเคยไป
แน่นอนค่ะมันก็เป็นการเที่ยวพื้นๆ เล่าแบบคร่าวๆคือคืนแรกที่ไปถึงก็ดื่มกันแบบไม่เกรงใจฟ้าดิน จริงๆแล้วก็อยากเกรงใจแต่ด้วยความที่ว่าฟ้าดินดันไม่เกรงใจพวกเรา ฝนตกกระหน่ำลงมาในช่วงหัวค่ำ ทำให้แผนที่จะนั่งรถไปรับประทานอาหารอร่อยที่อ่าวไผ่และลิ้มรส bucket สุดล้ำเป็นอันต้องล่ม ทำให้พวกเราต้องนั่งจับเจ่ากันที่ resort และเปิดเครื่องดื่มอะไรต่อมีอะไรที่พกไปด้วยมาย้อมใจกันจนไร้สติไปหลายราย ว่าไม๊ค่ะว่าเสม็ดเป็นสถานที่ เหมาะแก่การไป “ดื่ม”ด่ำกับบรรยากาศที่ผ่อนคลายเสียจริงๆ ซึ่งกิจกรรมที่กล่าวไป มั่นใจมากๆว่าใครๆไปก็ต้องทำกิจกรรมนี้
แต่เรื่องสำคัญมีอยู่ว่า ในวันต่อมาหลังจากที่หายจากอาการ hang over กันไปตามสมควร พวกเราตกลงปลงใจกันว่าจะไปนั่งเรือรอบเกาะ เรือที่นั่งเป็นเรือลำเล็ก maximum capacity คือ 7-8 คน และเราก็ไปกันเต็มพิกัดความจุของเรือเลย ใน group มี 7 คนบวกคนเรือเป็น 8 แต่เสื้อชูชีพในเรือมี 6 มารู้หลังจากออกเรือไปพักนึงแล้ว เยี่ยมไปเลย…
ผู้เสียสละในคราวนี้คือแขกบ้านแขกเมืองของเราเองแมนมาก นาย Josh พี่เค้าบอกว่าว่ายน้ำเก่ง แข็ง!!!
ช่วงแรกๆที่นั่งไปก็ออกจะเพลินดี ลมแรงบ้างคลื่นสูงบ้างเป็นบางจังหวะ ไม่น่าห่วงเรือได้มาจอดที่จุดที่เรียกว่าเป็นด้านท้ายของเกาะเพื่อให้ดำผิวน้ำดูปลา เท่าที่ดำดูเจออยู่ประมาณไม่เกิน 10ตัว แหละปะการังอีกเป็นหย่อมๆ เริมนึกในจะว่า มาทำไมวะคะนี้!!! เราดูอะไรกันอยู่คะ แต่เอาเถอะ ขำๆ มาแล้วแล้วนิ
ส่วนนึงของ survivors
หลังจากที่ขึ้นเรือเพื่อไปต่อนี้สิคะ เล่นเอาพูดไม่ออกกันเลยทีเดียว คือที่เสม็ดถ้าคนเคยไปบ่อยหน่อยแล้วเคยไปพักอ่าวพร้าวจะทราบว่าคลื่นทางด้านหลังเกาะจะแรงกว่าด้านหน้าหรือด้านหาดทรายแก้วที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว แต่วันนั้นฟ้าครึ้มฝนจะตกด้วย คลื่นเริ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ใจก็เริ่มเต้นไม่เป็นจังหวะมากขึ้นเรื่อยๆ เริ่มมองหน้ากันบ่อยขึ้นเรื่อยๆ เอาไงดีคะ ทุกคนเริ่มมองไปที่คนเรือ
หัวเรือใหญ่ของเรา คุณป๊อบก็มองหน้าสหายที่นั่งอยู่ด้านหน้าซึ่งก็รวมถึงเรา เพื่อนหนุ่มที่หน้าเหลือไม่ถึงนิ้ว และเพื่อนสาวบล็อกข้างๆ คือคุณ ฝน นัยว่าไหวมั๊ยมึง เราก็ไม่แน่ใจว่าได้ตอบกลับไปด้วยสีหน้าอย่างไร แต่สีหน้าเราตอนนั้นคงไม่ได้ต่างจากสหายท่านอื่นมากมายนัก คุณป๊อบเลยถามว่า น้องไหวมั๊ย คนเรือเค้าว่าไหว เรามองกลับไปข้างหลัง คลื่นมันมาจากหลายทิศทางมากและความสูงอยูในช่วง 2ถึง3เมตร โดยส่วนตัวเราคิดว่าถ้าหันเรือกลับน่าจะอันตรายเพราะเรือลำเล็กและคลื่นก็สูงขนาดนั้น เรามันใจเกิน 50%ว่ามีโอกาสล่มแต่เราก็ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญเรื่องคลื่นเลยเงียบดีกว่า จากนั้นเราหันไปมองหน้าคนขับเรือ เค้าเองก็หันไปสำรวจคลื่นจากด้านหลังเหมือนกัน เรานึกในใจว่า เอาวะถ้าไม่ไหวเค้าคงหันหัวกลับให้เพราะมันก็ชีวิตเค้าเหมือนกัน
ในใจตอนนั้นนึกอยู่ว่าเมื่อไร่จะพ้นกับ ซวยแล้วกูจะรอดมั๊ย เพราะมองไปรอบๆ นอกจากทะเลแล้วก็คือหน้าผาสูงและโขดหินเป็นแนวยาวยังมองไม่เห็นหาดต่อไป ถ้าล่มคลื่นซัดดิฉันและเพื่อนๆเข้าโขดหินแน่ต่อให้ฟิตปั๋งแค่ไหนเราก็ไม่ใช่นักแข่ง ไตรกีฬาคลื่นแบบนี้ร่างกายทานไม่ไหวเป็นแน่ ตาย(ห่า)มากๆ แล้วมองไปที่เพื่อนสาวหน้าซีดแล้วยิ่งรู่สึกแย่มากไปกว่าเดิมเพราะรู้ดีว่าเพื่อนฝนว่ายน้ำไม่แข็งเอาเลย คือก็เป็นที่รู้กันในหมู่เพื่อนๆว่า ฝนไม่ค่อยถูกกับการเที่ยวทางน้ำเท่าไรนัก ถ้าเรือล่มก็ไม่อยากจะคิด ไอ้ระหว่างที่คิดๆไปเรือก็เริ่มแฉลบ และเอียงอย่างรุนแรงพอสมควรมาทางฝั่งเราบ้างฝั่งเพื่อนทั้งสองบ้าง จนเริ่มคิดว่าถ้าแฉลบแบบแรงๆนัยว่าเรือล่มแน่เราคงต้อง กระโดดออกจากเรือเพื่อไม่ให้น้ำหนักของเรือดูดเราลงไป โอยๆๆๆอารมณ์นั้นแย่มากๆเลยค่ะ มองหน้ากันไปมองหน้ากันมาแถมนอกจากเรือจะแฉลบแล้ว คลื่นที่สูงเป็นเมตรก็ทำให้เรือดีดขึ้นลงไปมาจะนั่งข้างหลังก็ไม่ได้เดี๋ยวเรือมันจะไม่ balance แถมตอนนั้นก็ลุกไปลำบากแล้วด้วยไอ้คลื่นบ้าบอที่ว่ามันเลยทำให้ตัวเราเด้งลอยเหนือเบาะนั่งและกระแทกกลับลงมาอยู่นับครั้งไม่ถ้วน โอยยๆๆๆๆ ตายๆๆๆๆๆๆ ณ นาทีนั้น ชั่วโมงนั้นเครียดมากๆที่สุดค่ะ
เข็ดค่ะเข็ด นึกในใจว่าถ้ารอดไปไม่เอาอีกแล้ว
และแล้ว 7 ผู้รอดชีวิต ก็รอดมาได้ ทันทีที่เห็นสีขาวๆของหาดต่อไปอยู่ไรๆใจชื้นขึ้นมาทันที รอดแล้ววววววว!!!
สำหรับเราของฝากจากการเที่ยวรอบเกาะคืออาการคลื่นไส้เฉียบพลันเมื่อเรือจอด
สีเขียวอมม่วงเป็นแนวยาวใต้ท้องแขนข้างขวา ก้นสีเขียวอมม่วงเล็กน้อยถึงปานกลาง ขาหลังสีเขียวอมม่วงเป็นแนวยาว ในวันต่อมา
ประสบการณ์ที่ไม่มีวันลืมลง แต่เราก็จะยังคงเที่ยวทะเลเกาะแก่งๆต่อไปด้วยความรอบคอบระมัดระวังมากขึ้น
นี่แหละค่ะที่เค้าว่า คืบก็ทะเล ศอกก็ทะเล
….ทริปต่อไปทะเลตรัง ดีมั้ยคะ survivors?
วันพฤหัสบดีที่ ๒๕ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๐
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
๖ ความคิดเห็น:
ดีครับ มาตรังบอกด้วยจะแวะไปหา ใกล้ๆเมืองลุงนี่เอง
ขอสารภาพว่าเป็นบุคคลปากดีที่เป็นต้นเหตุของการผจญภัยเสี่ยงตายทั้งหมด.....วันหลังไปอีก เอาให้มันช้ำในตายกันไปข้างนึงเล้ยยย
ลองดูอีกสักตั้งมั้ยเพื่อน แต่ลองเปลี่ยนจากนั่งเรือเล็กรอบเกาะ เป็นพายเรือคายักรอบเกาะแทน คราวนี้แหละเพื่อนเอ๊ยยย...สนุกแน่
หมอ>> ไว้ไปแล้วจะบอกค่ะ
susama>>พาย kayak รอบเกาะ!! ตายไม่กลัว กลัวไม่ตายใช่ไม๊คะเพื่อน ไปตรังนะๆๆๆๆๆๆ ไปนะไปนะ ไปนะ
เปลี่ยนจาก "ตรัง" เป็น "ตาก" ได้เป่า "ต" เหมียนกันเยย นู๋จาล่องแก่งค่ะ ไปพายเรือยางแทนได้มะ
โอยอิจฉา อยากไปเที่ยวมั่งเว่ย โอ้ววววววเซ็งจิต
อยากกลับไปเปง "เจ๊กลากไป ไทยลากมา" ได้เหมือนสมัยอยู่มหาลัยจังเรยเพื่อน
ตาก ตาก ตาก จัดมาๆ
แสดงความคิดเห็น